วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552

Safe Driving For Songkran Get Your Car Ready For Long Trip "การเตรียมความพร้อมของรถก่อนการเดินทางช่วงเทศกาล สงกรานต์"

เช็คคู่มือรถ
อ่าน สมุดคู่มือประจำรถซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลที่ดีที่สุด เช่นในการเปลี่ยนยางอะไหล่ แม่แรงถูกเก็บใว้ที่ไหนรวมทั้งแรงดันลมยางที่ถูกต้อง, วีธีเช็คระดับน้ำมันเครื่องที่ถูกต้อง, ตำแหน่งของด้ามวัดน้ำมันเกียร์อยู่ที่ไหน และอื่นๆ
การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง
ให้ จอดรถในแนวราบ,อุ่นเครื่องสักพักแล้วดับเครื่องยนต์, ทิ้งใว้สัก 1 นาทีให้น้ำมันเครื่องกระจายทั่ว หากน้ำมันเครื่องสีดำ(รูปขวา)-ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน. หากยังเป็นสีน้ำตาล(รูปซ้าย)-ยังคงใช้ได้ แต่ถ้าระดับต่ำกว่าตัว “F” ให้ใช้น้ำมันเครื่องชนิดเดิมเติมจนได้ระดับเต็มหรือระดับ “F”
การตรวจเช็คน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
อุ่น เครื่องยนต์แล้วจอดรถในแนวราบ, ใส่เบรคมือโดยที่เกียร์อยู่ที่ตำแหน่ง “P” หรือ “จอด”โดยทั่งไปแล้วน้ำมันเกียร์ที่มีสภาพดีหรือใหม่นั้นจะมีสี"."ชมพู-แดง” ในทางตรงข้ามหากน้ำมันเกียร์ผ่นการใช้งานมามากพอสมควรสีจะกลายเป็นสีออก “น้ำตาล” แต่ถ้าสีออก“ดำ” ก็ถึงคราวที่จะเปลี่ยนได้แล้ว


ระดับน้ำสารที่ช่วยลดความร้อน
สามารถ มองเห็นได้จากภายนอก โดยที่ระดับน้ำควรอยู่ที่ระดับระหว่าง “Min” และ “Max”(ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่หม้อน้ำร้อนอยู่เด็ดขาด) ถ้าระดับน้ำอยู่ในระดับต่ำ อาจเป็นไปได้ที่ว่าอาจจะมีการรั่ว หรืออาการรั่วต่างๆ จะต้องได้รับการซ่อมแซมก่อนการเดินทาง ซึ่งการที่สารช่วยลดความร้อนพร่องไปนั้น อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการเกิดโอเวอร์ฮีต ซึ่งเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
แบตเตอรี่ เป็น ที่น่าเสียดายว่าเราไม่มีทางที่จะทราบได้เลยว่าแบตเตอรี่จะหมดเมื่อใด- บางครั้งแบตเตอรี่ก็หมดโดยที่ปราศจากสัญญานเตือนภัยล่วงหน้าแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามหากคุณรู้สึกว่าเครื่องยนต์นั้นเริ่มมีอัตราเร่งช้ากว่าที่ควร จะเป็น หรือแบตเตอรี่ใกล้จะหมดวาระของมันแล้ว โดยปรกติแล้วจะมีอายุอยู่ประมาณ 2 – 5 ปี ถ้าแบตเตอรี่ของคุณมีอายุ 4 – 5 ปีแล้วแนะนำว่าควรเปลี่ยนก่อนเริ่มการเดินทาง ให้ตรวจสภาพภายนอกของแบตเตอรี่ โดยสังเกตที่รอยรั่วซึมของน้ำกลั่น , รอยรั่วรอยเสียหายต่างๆ และในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ต้องแน่ใจว่าแบตเตอรี่อยู่ในพื้นที่โดยที่ถูกล๊อคและยึดใว้แน่นกับฐานยึดการ ที่ฐานยึดหลวมอาจเป็นสาเหตุและนำมาสู่อุบัติเหตุบนท้องถนนได้
สายพาน ให้ มองที่สายพาน (ดังรูป) ถ้าพบรอยแตกหรือขาดหรือร่องรอยของความเสียหาย-แนะนำให้เปลี่ยนก่อนการเดิน ทาง เช็คน้ำมันเบรค น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ และเติมน้ำที่ปัดน้ำฝนให้เต็ม
และ ถ้าคุณจำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ที่ได้เปลี่ยนกรองอากาศ-แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ ทันทีการที่กรองอากาศสกปรกจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ตลอดจนให้มองหาอาการหรือสิ่งปรกติต่างๆ เช่น การรั่วของสายยางต่างๆ


เช็คยาง เช็คแรงดันลมยางโดยความดันที่เหมาะสมต้องเป็นไปตามคำแนะนำของคู่มือรถ , ให้สังเกต แรงสั่นสะเทือนตอนเร่งเครื่อง
- ล้อได้ตั้งศูนย์แล้วหรือยัง? หรือ แม้แต่ร่องของดอกยางบางเกินไปหรือเปล่า? หากมีการสึกของดอกยางที่ไม่เท่ากันอาจเกิดปัญหาของยางได้

ช่วงล่าง , สตรัท
มี ปัญหาเรื่องการสั่นสะเทือนหรือเปล่า? เสียงผิดปรกติ? เสียงผิดปรกติเวลาขึ้นเนิน? รถของท่านได้รับการตรวจสอบบ้างหรือเปล่า? หากมีอาการเหล่านี้ เป็นไปได้ที่ว่ารถของท่านอาจจะมีปัญหา ให้ลองมองไปในซุ้มล้อ(ดังรูป) สตรัททั้ง 4 ตัวนั้นแห้งหรือไม่? หากมีคราบน้ำมันรั่วซึม-ให้ทำการเปลี่ยนก่อนออกเดินทาง หากสตรัทมีน้ำมันน้อยเกินไป การออกตัวรถโคลงจนสังเกตได้ว่าผิดปรกติ และอาจเป็นสาเหตุของการเกาะถนนที่ไม่ปลอดภัย ตลอดจนรถจะเสียหลักได้ง่ายบนถนนที่ขรุขระ
บูทยาง CV joint รถ ขับหน้าทุกคันและรถขับสี่ล้อหลายยี่ห้อจะมี CV-joints ซึ่งใช้ถ่ายทอดแรงบิดผ่านล้อหน้า โดยที่ตัว CV-joints จะมีน้ำมันหล่อลื่นอยู่ภายในและถูกเชื่อมโดยบูทยาง…. .ในการเบรคครั้งหนึ่ง อาจจะมีน้ำมันหล่อลื่นซึมออกมาจาก CV-joints และเป็นเหตุให้ตัว CV-joints ไม่ทำงานชั่วคราว(เป็นเวลาสั้นๆ)เนื่องจากน้ำมันหล่อลื่นภายในมีน้อยเกินไป CV-joints สามารถมองเห็นได้โดยจะอยู่ข้างในของล้อคู่หน้า คุณสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองโดยการมองเข้าไปข้างในล้อหน้า โดยล้อเลี้ยวออกทางข้างนอก(ดังรูป) และยางบูทควรจะแห้งอยู่ตลอดเวลา หากบูทยางมีรอยแยกหรือแตก คุณสามารถเห็นรอยรั่วซึมของน้ำมันในบริเวณนั้น และควรเปลี่ยนบูทยางใหม่ก่อนการเดินทา
ยางอะไหล่ และแม่แรง ให้ ตรวจสอบแรงดันของยางอะไหล่ ถ้ายางอะไหล่มีขนาดเดียวกับยางทั้งสี่ แรงดันของยางอะไหล่ควรมีแรงดันลมเท่ากับยางเส้นอื่นเช่นกัน แต่ถ้ายางอะไหล่เส้นเล็ก แนะนำให้ใช้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ให้ตรวจแรงดันที่แท้จริงจากคู่มือรถ หากยางอะไหล่คุณอยู่ใต้ตัวรถ ให้แน่ใจว่าคุณสามารถนำยางอะไหล่ออกมาได้โดยไม่ลำบาก ตลอดจนให้ตรวจสอบอุปกรณ์
ต่างๆที่เกี่ยวข้อง ว่าไม่ถูกสนิมจับและยังสามารถใช้การได้ดี เช่น แม่แรงและน๊อตยืดล้อต่างๆ

อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเดินทางไกลอื่นๆ
- สายพ่วงแบตเตอรี่, กระบอกสูบลม, เครื่องวัดแรงดันลมยาง
- หลอดไฟหน้าสำรอง
- น้ำมันเครื่องสำรอง 1 – ขวด (1 ลิตร)
- ไฟฉาย และเครื่องมือพื้นฐานทั่วไป เช่น คีม และ ไขควง
- ป้ายหยุดสามเหลี่ยมสะท้อนแสงแสง
- เบอร์โทรศัพท์สำคัญต่าง ของพื้นที่ที่คุณกำลังเดินทางไป (บริการรถลาก, ทีมฉุกเฉินบนทางหลวง)
- ยางอะไหล่ ในกรณี่ใช้ยางปะนั้น แนะนำให้ใช้ในกรณีขับไปร้านซ่อมยางที่ใกล้ที่สุดเท่านั้น


BlueScope Safe Driving
BlueScope Thailand

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น